เปิดตัวประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ BYD XIA รถเอ็มพีวีใหม่ขนาดใหญ่ในซีรี่ส์ Dynasty ที่มาในแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง พ่วงด้วยขุมพลัง PHEV ที่มากับเทคโนโลยี DM-i เจเนอเรชันที่ 5 ของทางบีวายดี โดยจะมีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่นย่อย เปิดราคาจำหน่ายในจีนดังนี้
ADVERTISEMENT
สำหรับ BYD XIA รถเอ็มพีวีขนาดใหญ่รุ่นใหม่ ของทางค่าย BYD จะเข้ามาเป็นรถรุ่นใหม่ในซีรี่ส์ราชวงศ์ XIA ของในตะกูล Dynasty ที่ร่วมกับ HAN, TANG, QIN, SONG และ YUAN โดยในราชวงศ์ XIA (เซี่ย) ถือเป็นราชวงศ์ที่เก่าแก่ที่สุดในประวัติศาสตร์จีนโบราณ ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2070 ก่อนคริสตกาล
สำหรับตัวรถนั้นจะใช้พื้นฐานร่วมกันกับ Denza D9 ในด้านงานออกแบบดีไซน์มาพร้อมภาษาการออกแบบที่เรียกว่า Dragon Face ของ BYD ด้านหน้าตัวรถจะมากับกระจังหน้ารูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมูขนาดใหญ่ ตกแต่งด้วยโครเมียมกระจายเต็มพื้นที่ มาพร้อมชุดไฟหน้า LED ดีไซน์เพรียวบาง โดยมีเส้นไฟ LED วางพาดเต็มพื้นที่เชื่อมต่อไฟหน้าทั้ง 2 ฝั่ง อีกทั้งยังตกแต่งด้วยแถบโครเมียมพร้อมติดตราชื่อรุ่น XIA (夏) ไว้ที่ด้านหน้า
เส้นสายด้านข้างของตัวรถนั้นจะมีความคล้ายกับ Denza D9 ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของหลังคาที่มาในลักษณะแบน, ประตูแบบบานเลื่อนไฟฟ้าที่คู่บานหลัง รวมทั้งตกแต่งด้วยเส้นโครเมียมที่ขอบกระจก, คิ้วชายล่างประตู มาพร้อมล้ออัอลอย ขนาด 18 นิ้ว
ส่วนด้านท้ายของ BYD XIA จะมากับชุดไฟท้ายที่เป็นแถบยาววางเต็มพื้นที่ด้านหลัง มาพร้อมชุดสปอยเลอร์หลังคาที่เป็นสีเดียวกับตัวรถ
ขณะที่ในด้านมิติขนาดตัวรถจะมีความยาว 5,145 มม. ความกว้าง 1,970 มม. ความสูง 1,805 มม. และระยะฐานล้อ 3,045 มม.
ภายในห้องโดยสารจะเป็นแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง (2+2+3) ด้านเบาะที่นั่งจะหุ้มด้วยหนังแท้ NAPPA เบาะที่นั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง มาพร้อมฟังก์ชันนวด 10 จุด ส่วนเบาะที่นั่งฝั่งผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง พร้อมที่รองหลังไฟฟ้า 4 ทิศทาง โดยเบาะคู่หน้าจะมากับระบบทำความร้อน, ระบบระบายอากาศ และระบบจดจำตำแหน่ง
เบาะนั่งแถวที่ 2 จะเป็นแบบ Captor seal โดยจัวเบาะจะเป็นแบบ Zero Gravity มาพร้อมที่วางขาแบบไฟฟ้า รวมทั้งยังมากับระบบทำความร้อน ระบบระบายอากาศ และฟังก์ชันนวด 10 จุด โดยสามารถปรับต่าง ๆ ของตัวเบาะได้ที่แผงควบคุมที่อยู่บริเวณแผงประตูข้างทั้ง 2 ฝั่ง
ขณะที่เบาะนั่งแถวที่ 3 ปรับพับแบบ 40:60 มากับฟังก์ชันระบบทำความร้อน และระบายอากาศ อีกทั้งเบาะหลังของ XIA ยังสามารถเลื่อนได้ถึง 10 ซม. เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ นอกจากนี้ยังสามรถพับได้แบบราบเรียบ ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติที่หายากในรถมินิแวน
ขณะที่ในส่วนของแผงแดชบอร์ดของ BYD XIA จะเหมือนกับในรุ่น Denza Z9 โดยจะติตดั้งหน้าจอมาให้ 3 จอ ได้แก่ แผงหน้าปัด LCD ขนาด 12.3 นิ้ว ที่วางอยู่หลังพวงมาลัยทรง 3 ก้าน ส่วนตรงกลางจะเป็นหน้าจอควบคุมส่วนกลางขนาด 15.6 นิ้ว ที่มาในแบบแขวนลอยตัวออกมาจากคอนโซลหน้า และหน้าจออินโฟนเทนเมนต์สำหรับผู้โดยสารตอนหน้าขนาด 12.3 นิ้ว โดยหน้าจอนี้จะมีเฉพาะในรุ่น Excellence ที่เป็นรุ่นท็อปสุด
นอกจากนี้ในรุ่นท๊อปยังได้รับเพิ่มในส่วนของหน้าจอเพดานแบบพับขนาด 15.6 นิ้ว สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง นอกจากนี้รุ่นนี้ยังได้รับการอัปเกรดเป็นระบบ DiLink150 อีกด้วย โดยใช้ชิป AI ของ BYD 9000 ที่ได้รับการปรับแต่งมาเป็นพิเศษ ซึ่งสามารถเชื่อมโยงหน้าจอทั้งหมดเข้าด้วยกันได้ และยังเชื่อมต่อกับคอนโทรลเลอร์เกมภายนอกและแว่นตา AR และยังได้รับกระจกมองหลังแบบสตรีมมิ่งอีกด้วย
ด้านคอนโซลกลางของ BYD XIA ในทุกรุ่นย่อยจะมากับแท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย 2 ตำแหน่งที่ให้กำลังชาร์จไฟ 50W มาพร้อมปุ่มควบคุม และที่วางแก้ว 2 ตำแหน่ง นอกจากนั้นยังยังติดตั้งตู้เย็นขนาดเล็กที่อยู่ด้านหลังคอนโซลกลาง ปรับอุณหภูมิได้ทั้งร้อน และเย็น โดยมีช่วงอุณหภูมิ -6~6℃ สำหรับทำความเย็น และ 35~50℃ สำหรับทำความร้อน อีกทั้งยังมีโต๊ะถาดพับได้ที่ด้านหลังของเบาะนั่งด้านหน้าสำหรับผู้โดยสารแถวที่สอง
นอกจากนั้น BYD XIA ยังได้รับระบบเสียง DiSound ที่พัฒนาขึ้นเอง มาพร้อมลำโพง 28 ตัวและช่องเสียงอิสระ 32 ช่อง ซับวูฟเฟอร์แถวที่ 3 สามารถแยกเป็นลำโพงบลูทูธสำหรับกลางแจ้งที่มีกำลังไฟภายนอก 170 วัตต์ได้
รวมทั้งยังมากับชุดไฟ Ambient Light 128 สี พร้อมการเปลี่ยนสีอัจฉริยะ, ระบบน้ำหอมอัจฉริยะแบบแอคทีฟ, ระบบปรับอากาศแบบแยกส่วน 3 โซน, ช่องแอร์แถวกลางและหลังแบบอิสระ มาพร้อมระบบฟอกอากาศ PM2.5 รวมทั้งยังมากับช่อง USB 6 ช่องทั่วรถ รวมทั้งช่องจ่ายไฟ 12V สำหรับแถวหน้า
ด้านพื้นที่เก็บของด้านท้ายจะมีความจุ 470 ลิตร เมื่อพับเบาะด้านหลังลงจะขยายพื้นที่เก็บสัมภาระได้มากถึง 2,036 ลิตร
ในด้านระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือการขับขี่ ของ BYD XIA มาพร้อมกับระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ DiPilot 100 ระดับไฮเอนด์เป็นชุดอุปกรณ์มาตรฐาน มาพร้อมระบบ BYD Eye of the Gods โดยใช้เซ็นเซอร์ทั้งหมด 29 ตัว รวมทั้งยังมาพร้อมกุญแจ NFC และถุงลมนิรภัยรอบคัน
ส่วนระบบส่งกำลังของ BYD XIA จะมากับเทคโนโลยี DM-i เจเนอเรชันที่ 5 ของ BYD ที่จะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซินความจุ 1.5T ให้พละกำลังสูงสุด 115 kW (154 แรงม้า) แรงบิด 225 นิวตันเมตร ทำงานผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลัง 200 kW (268 แรงม้า) แรงบิด 315 นิวตันเมตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ
มาพร้อมชุดแบตเตอรี่ LFP Blade ที่มี 2 ขนาดความจุได้แก่ 20.4kWh วิ่งในโหมดไฟฟ้าล้วนได้ระยะทางไกล 100 กม. และ แบตเตอรี่ขนาด 36.6kWh วิ่งในโหมด EV ไกล 180 กม. โดยจะวิ่งครอบคลุมระยะทางไกลถึง 1,060 กม. เมื่อแบตเตอรี่ชาร์จไฟเต้ม และน้ำมันเต็มถัง ส่วนในรุ่นที่ใช้แบตเตอรี่ขนาดเล็กยังไม่มีการประกาศระยะการใช้งานที่ครอบคลุมอออกมา
ด้านอัตราเร่งในรุ่นแบตเตอรี่ขนาดเล็กจะให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 8.1 วินาที ส่วนในรุ่นที่มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่จะมีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 8.5 วินาที นอกจากนี้ยังเคลมไว้ว่าจะเป็นรถ MPV ปลั๊กอินไฮบริด ที่ชาร์จไฟ SoC ได้เร็วที่สุดรุ่นหนึ่ง โดยจะให้กำลังไฟจาก 30 – 80% ในเวลาประมาณ 8 นาที เท่านั้น
ด้านระบบช่วงล่างของ BYD XIA จะเป็นแบบระบบควบคุมตัวถังลดแรงกระแทกอัจฉริยะ DiSus-C ที่จะช่วควบคุมความหนืดในการยืด-ยุบของช่วงล่าง เพื่อควบคุมการทรงตัวให้ดีตลอดการเดินทาง
BYD XIA ที่เปิดวางจำหน่าายในจีนจะมีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน Yuanshan Blue, สีม่วง Jianyao Purple, สีขาง Runyu White และสีดำ Xuankong Black
สำหรับในตลาดเมืองไทยนั้นได้คาดว่ามีแผนที่จะนำเข้ามาจัดจำหน่าย แต่คาดว่าคงต้องรออีกนิด อย่างเร็วสุดคาดว่าเป็นในช่วงสิ้นปี 2568 นี้